พระกริ่งจอมสุรินทร์เนื้อนวะก้นเงินสวยเนียนตาไม่มีตามด

“พระกริ่งจอมสุรินทร์ หลวงปู่ดุลย์ อตุโล ปี 2513 เนื้อนวะโลหะก้นเงิน”

องค์นี้สวยเนียนตาไม่มีหลุมตามดตามองค์พระครับ

พระกริ่งจอมสุรินทร์ หลวงปู่ดุลย์ อตุโล วัดบูรพาราม จ.สุรินทร์ จัดสร้างขึ้นในปี พ.ศ.2513 ถือเป็นหนึ่งในสุดยอดพระกริ่งแห่งภาคอีสาน ออกแบบโดยนายช่างเกษม มงคลเจริญ ผสมสูตรนวโลหะโดยพระอาจารย์ไสว สุมโน วัดราชนัดดา วัตถุประสงค์ในการสร้างเพื่อสมนาคุณแก่ผู้มีจิตศรัทธาบริจาคทุนสร้างพระพุทธรูปขนาดใหญ่ประจำจังหวัด ประดิษฐาน ณ ภูเขาสวาย จ.สุรินทร์
ทั้งนี้ คณะกรรมการผู้จัดสร้างได้จัดพิธีพุทธาภิเษกใหญ่ ณ พระอุโบสถวัดบูรพาราม เมื่อวันที่ 20 พ.ย. 2513 พิธีในครั้งนั้นจัดได้ว่าเป็นพิธีพุทธาภิเษกที่ยิ่งใหญ่สมบูรณ์น่าเลื่อมใส โดยมี

- หลวงปู่ดูลย์ อตุโล เป็นประธานฝ่ายสงฆ์
- และพระคณาจารย์สายอีสานและพระเกจิอาจารย์ดังทั่วประเทศเข้าร่วมพิธีอย่างคับคั่ง อาทิ
- หลวงปู่ฝั้น อาจาโร
- หลวงปู่ขาว อนาลโย
- หลวงปู่ชอบ ฐานสโม
- หลวงปู่สาม วัดป่าไตรวิเวก ฯลฯ

กล่าวได้ว่าพระกริ่งจอมสุรินทร์เป็นยอดพระกริ่งที่เพียบพร้อมด้วยคุณค่าและพุทธคุณอย่างแท้จริง
การจัดสร้างพระกริ่งจอมสุรินทร์มี 3 ชนิดเนื้อโลหะ คือ

1.เนื้อนวโลหะ ใต้ฐานฝาอุดเนื้อเงิน
2.เนื้อเงิน ใต้ฐานฝาอุดเนื้อทองคำ
3.เนื้อทองคำใต้ฐานฝาอุดเนื้อทองคำ

หลวงปู่ดูลย์ อตุโล ท่านเกิดเมื่อวันอังคารแรม 2 ค่ำ เดือน 11 ปีกุน ตรงกับวันที่ 4 ตุลาคม 2430 เป็นปีที่ 20 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 อุปสมบท ณ วัดจุมพลสุทธาวาส อ.เมือง จ.สุรินทร์ ใน พ.ศ. 2453 โดยมีพระครูวิมลศีลพรต เป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่อแรกบวช หลวงปู่ได้พากเพียรศึกษาการปฏิบัติกรรมฐานอย่างเคร่งครัด มีความวิริยะ อุตสาหะอย่างแรงกล้า จนล่วงเข้าพรรษาที่ 6 หลวงปู่จึงหันมาศึกษาพระปริยัติธรรมที่ วัดสุปัฏนาราม จ.อุบลราชธานี เนื่องจากเป็นวัดที่อยู่ในสังกัดธรรมยุตินิกาย หลวงปู่จึงได้ขอญัตติเป็นธรรมยุตินิกาย ในพ.ศ. 2461 ณ วัดสุปัฏนารามโดยมีพระมหารัฐ เป็นพระอุปัชฌาย์
และในพรรษาต่อมาหลวงปู่ได้มีโอกาสพบพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต เมื่อได้ฟังธรรมเพียงครั้งเดียว จากพระอาจารย์มั่น ก็เกิดความอัศจรรย์ใจยิ่ง จึงได้เลิกศึกษาพระปริยัติแล้วออกธุดงค์ตามพระอาจารย์มั่น ไปยังที่ต่างๆ หลายแห่ง จึงนับได้ว่าหลวงปู่เป็นศิษย์พระอาจารย์มั่นในสมัยแรก ต่อมาเจ้าคณะมณฑลนครราชสีมาขอให้หลวงปู่กลับ จ.สุรินทร์ เพื่อบูรณะวัดบูรพาราม หลวงปู่จึงจำต้องระงับกิจธุดงค์และเริ่มงานบูรณะตามที่ได้รับมอบหมาย
หลวงปู่ได้อุทิศชีวิต เพื่อพระศาสนาอย่างแท้จริง จนได้รับการยอมรับจากสาธุชนทั้งหลาย ว่าเป็นอริยสงฆ์ที่หาได้ยากยิ่งองค์หนึ่ง
หลวงปู่ดุลย์ ท่านมรณภาพลงด้วยอาการสงบ เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2526 รวมสิริอายุได้ 96 ปี 74 พรรษา